PCE ปักหมุดเดินสายโรดโชว์ทั้งในปท.-ตปท.ก่อนลุยเข้า SET หลังโชว์กำไรโค้งแรกทะลุร้อยล้าน
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ของ PCE เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย PCE มีแผนจะเดินสายนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน (Road Show) ทั้งในและต่างประเทศในช่วงไตรมาส 3/67 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจในธุรกิจ พร้อมทั้งแสดงศักยภาพความเป็นผู้นำในธุรกิจน้ำมันปาล์มและระบบซัพพลายเชนครบวงจร
ปัจจุบัน PCE มีทุนจดทะเบียน 2,750 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 2,000 ล้านบาท โดยเตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวน 750 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท ซึ่งคิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายแล้วของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ และจะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET หมวดธุรกิจ เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร-AGRO (กลุ่มอุตสาหกรรม : ธุรกิจการเกษตร-AGRI)
นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PCE เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 บริษัททำรายได้ 5,784.71 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 110.88 ล้านบาท ขณะที่ทั้งปี 67 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 66 ที่มีรายได้ 24,722.78 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 330.50 ล้านบาท
สำหรับการเข้าจดทะเบียนใน SET ของ PCE จะเป็นก้าวสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทในการต่อยอดธุรกิจพร้อมขยายโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องและยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีส่วนสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มครบวงจรในอนาคต เพราะวัตถุประสงค์ในการระดมทุน บริษัทจะนำไปลงทุนในกิจการอื่นที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโรงงานผลิตน้ำมันไบโอดีเซล (B100) ของบริษัท เช่น โรงสกัดน้ำมันปาล์ม รวมถึงลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และควบคุมต้นทุน อีกทั้งเพื่อต่อยอดหรือสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ส่วนที่เหลือใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ
PCE ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ในธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร ที่มีความพร้อมการจัดการระบบซัพพลายเชน (Supply Chain) โดยแบ่งได้เป็น 1) กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันไบโอดีเซล และน้ำมันปาล์มโอเลอีนเพื่อการบริโภค ซึ่งรวมถึงการซื้อน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาจำหน่ายต่อให้กับลูกค้าทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ 2) กลุ่มธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ 3) กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางรถ และ 4) กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ
ปัจจุบันบริษัทย่อยภายในกลุ่ม PCE ประกอบด้วย
- บริษัท นิว ไบโอดีเซล จำกัด (NBD) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่าย น้ำมันไบโอดีเซล น้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ และน้ำมันพืชสำหรับการบริโภค ภายใต้ตราสินค้า “รินทิพย์” โดยมีถังเก็บน้ำมันปาล์มและน้ำมัน B100 ทั้งหมด 80 แทงค์สามารถจัดเก็บได้ปริมาณ 100,000 ตัน
- บริษัท ปาโก้เทรดดิ้ง จำกัด (PACO) ประกอบธุรกิจซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันเมล็ดในปาล์ม เมล็ดในปาล์ม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากปาล์ม โดยจัดจำหน่ายให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
- บริษัท พี.เค.มารีน เทรดดิ้ง จำกัด (PKM) ประกอบธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ ขนาดเกินกว่า 500 ตันกรอส มีพื้นที่ให้บริการกว่า 50,000 ตร.ม. และมีคลังน้ำมัน จำนวน 58 แทงค์ที่สามารถรองรับปริมาณการจัดเก็บได้ถึง 240,000 ตัน โดยมีท่าเทียบเรือทั้งในจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดฉะเชิงเทรา
- บริษัท เพชรศรีวิชัย จำกัด (PC) ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางบกภายในประเทศซึ่งมีรถให้บริการกว่า 150 คัน เพื่อขนส่งน้ำมันปาล์ม รวมถึงสินค้าแห้งและอื่นๆ
- บริษัท พี.ซี.มารีน (1992) จำกัด (PCM) ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีขนาดเรือ 1,800-3,100 ตัน ซึ่งสามารถขนส่งได้ทั้งของแห้งและของเหลว รวม 13 ลำ สามารถขนส่งได้สูงสุดปีละกว่า 2,000,000 ตัน ทั้งของแห้งและของเหลว